Coronavirus disease (COVID-19) questions and answers on cleaning and disinfecting surfaces in non-health care settings
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) : การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิว นอกสถานพยาบาล
**เอกสารนี้ประกอบไปด้วยคําแนะนําฉบับเร่งด่วน ทั้งนี้หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เอกสารนี้จะมีการปรับปรุงในภายหลัง **
ข้อมูลฉบับภาษาอังกฤษได้รับการปรับปรุงเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 – ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด 19 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์การอนามัยโลกจะปรับปรุงเนื้อหาในการตอบข้อสงสัยนี้ให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเมื่อเรามีข้อมูลมากขึ้น
หากต้องการข้อมูลล่าสุดซึ่งเป็นภาษาอังกฤษสามารถดูได้ที่นี่
มีพื้นที่ใดบ้าง ที่จำเป็นต้องมีการฆ่าเชื้อ ในบริบทนอกสถานพยาบาล
การฆ่าเชื้อเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสโควิด 19 นอกสถานพยาบาล เช่น ในบ้าน สำนักงาน โรงยิม อาคารสาธารณะ สถานที่ทางศาสนา ตลาด สถานีขนส่ง บริษัท ห้างร้าน และร้านอาหาร พื้นผิวสัมผัสร่วมในสถานที่นี้ ควรกำหนดให้เป็นพื้นผิวที่จำเป็นต้องมีการฆ่าเชื้อ เช่น มือจับประตูและหน้าต่าง บริเวณเตรียมอาหาร เคาน์เตอร์ พื้นผิวในห้องน้ำ โถส้วม และก๊อกน้ำ อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่มีจอสัมผัส คีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ และพื้นที่ทำงานต่างๆ
น้ำยาฆ่าเชื้ออะไรบ้าง ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโควิค 19 นอกสถานพยาบาล
สำหรับพื้นที่นอกสถานพยาบาล สามารถนำโซเดียมไฮโปคลอไรด์ (น้ำยาฟอกขาว/คลอรีน) มาใช้ได้ในอัตราความเข้มข้นที่ 0.1% หรือ 1,000 ppm (น้ำยาฟอกขาวความเข้มข้น 5% ที่ใช้ตามบ้าน 1 ส่วน ต่อน้ำ 49 ส่วน) แอลกอฮอล์ความเข้นข้น 70-90% ก็สามารถนำมาใช้เพื่อฆ่าเชื้อบนพื้นผิวได้ ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอกก่อน เพื่อกำจัดฝุ่น หรือสิ่งสกปรก แล้วตามด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การทำความสะอาดควรจะเริ่มจากบริเวณที่สกปรกน้อยที่สุด ไปยังบริเวณที่สกปรกมากที่สุดเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้บริเวณที่สกปรกน้อยถูกปนเปื้อนโดยบริเวณที่สกปรกมากกว่า
น้ำยาฆ่าเชื้อทุกชนิด ควรเก็บไว้ในภาชนะบรรจุที่ทึบแสง ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดีและมีหลังคา เพื่อไม่ให้สัมผัสกับแสงโดยตรง และควรมีการเตรียมน้ำยาเพื่อใช้วันต่อวัน
สำหรับพื้นที่ในร่ม การนำน้ำยาฆ่าเชื้อมาใช้กับพื้นผิวด้วยการฉีดพ่นเป็นละอองฝอย (สเปรย์) เป็นวิธีที่ไม่แนะนำสำหรับโรคโควิด 19 ดังนั้น หากจะมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ควรเช็ดเช็ดถูด้วยผ้าที่นำไปจุ่มในน้ำยาฆ่าเชื้อ
ควรป้องกันตัวเองอย่างไรบ้าง ในขณะที่ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ
คุณสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อได้ดังนี้
- เลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อและความเข้มข้นอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการทำลายพื้นผิวและเพื่อหลีกเลี่ยง หรือลดผลกระทบจากสารพิษที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิกในครอบครัว หรือผู้ใช้บริการในพื้นที่ (หากเป็นพื้นที่สาธารณะ)
- หลีกเลี่ยงการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่นน้ำยาฟอกขาวและแอมโมเนีย เพราะสูตรผสมดังกล่าว จะก่อให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ และอาจปล่อยก๊าซอันตราย
- ไม่ควรให้ เด็ก สัตว์เลี้ยง และบุคคลอื่นๆ อยู่ในบริเวณที่มีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อการทำความสะอาด จนกว่าจะน้ำยาจะแห้งสนิทและไม่มีกลิ่นแล้ว
- เปิดหน้าต่าง และใช้พัดลมเพื่อระบายอากาศ และออกมาจากบริเวณนั้นหากเกิดกลิ่นที่ฉุนเกินไป ทั้งนี้ การเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อควรทำในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก
- ล้างมือทุกครั้งหลังการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ รวมถึง หลังการทำความสะอาดพื้นผิว
- ปิดฝาของบรรจุภัณฑ์ให้สนิทเมื่อไม่ได้ใช้ เพราะ การหกหรืออุบัติเหตุ จะเกิดขึ้นได้ เมื่อบรรจุภัณฑ์ไม่ได้ปิดสนิท
- ห้ามให้เด็กใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เก็บน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ทิ้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถุงมือและหน้ากากที่เป็นแบบใช้แล้วทิ้งทั้นทีหลังการทำความสะอาด อย่าล้างและนำกลับมาใช้ซ้ำ
- อย่าใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดมือ หรือใช้เช็ดทำความสะอาดทารก
- อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่แนะนำให้ใช้ในขณะที่ทำการฆ่าเชื้อพื้นผิวนอกสถานพยาบาล ได้แก่ ถุงมือยาง ผ้ากันเปื้อนกันน้ำ รองเท้าแบบปิด อาจมีการใช้ แว่นครอบตาหรือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อป้องกันสารเคมี หรือหากมีความเสี่ยงที่ของเหลวจะกระเด็น
หมายเหตุ หากการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อทำไม่ได้เป็นประจำเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร การล้างมือบ่อยๆ และเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ควรเป็นมาตรการป้องกันพื้นฐาน เพื่อลด การแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อาจเกิดจากพื้นผิวปนเปื้อน
แนวทางปฏิบัติสำหรับการฆ่าเชื้อพื้นที่ภายนอกอาคาร เช่น ตลาดและถนน คืออะไร
สำหรับพื้นที่ภายนอกอาคาร ไม่แนะนำให้ใช้การฉีดพ่นสเปรย์ (ละอองฝอยของน้ำยาฆ่าเชื้อ) เป็นบริเวณกว้าง หรือการรมควันฆ่าเชื้อในพื้นที่เปิด เช่น ท้องถนน และตลาดสด เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 หรือจุลชีพก่อโรคอื่นๆ เนื่องจาก ถนนและทางเดินเท้าไม่ได้ถือว่า เป็นช่องทางการติดเชื้อโควิค 19 การพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และอาจเกิดการระคายเคืองต่อตา ระบบทางเดินหายใจหรือผิวหนัง
นอกจากนี้ การฉีดพ่นสเปรย์จะไม่มีประสิทธิภาพ หากมีฝุ่นหรือขยะ ซึ่งทำให้ฤทธิ์ของน้ำยาฆ่าเชื้ออ่อนลง การทำความสะอาดด้วยมือเพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อนทั้งหมดก็อาจทำไม่ได้ วิธีนี้จะด้อยประสิทธิภาพลงในพื้นผิว ที่มีรูพรุน เช่น ทางเดินเท้าหรือทางเดินที่ไม่ได้ราดยาง แม้ไม่มีฝุ่นหรือขยะเลย ก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่การฉีดพ่นสารเคมีจะสามารถครอบคลุมพื้นผิวอย่างทั่วถึงและนานพอที่น้ำยาฆ่าเชื้อจะกำจัดเชื้อโรคได้
ระบบในพื้นที่สาธารณะสำหรับฆ่าเชื้อให้แก่บุคคล เช่น การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อผ่านอุโมงค์ หรือผ่านตู้ ปลอดภัยหรือไม่
ไม่ปลอดภัย ไม่แนะนำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อฆ่าเชื้อให้แก่บุคคล (โดยการเดินผ่านอุโมงค์ หรือผ่านตู้) ไม่ว่าจะเป็นในกรณีใดทั้งสิ้น การทำเช่นนี้อาจเป็นอันตรายทั้งทางร่างกายและจิตใจ และไม่ได้ลด ความเสี่ยงของการที่ผู้ติดเชื้อจะแพร่เชื้อไวรัสผ่านฝอยละอองหรือการสัมผัส แม้ผู้ติดเชื้อโควิด 19 เดินผ่านอุโมงค์หรือตู้ฆ่าเชื้อ ในทันทีที่เริ่มพูด ไอหรือจาม ก็ยังคงแพร่เชื้อไวรัสได้อยู่
ผลที่เกิดจากสารพิษหรือสารเคมีที่ใช้ในการฉีดพ่น เช่น คลอรีน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวหนัง หลอดลมหดเกร็ง และอาจมีผลกับระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้และอาเจียน นอกเหนือจากข้อกังวลด้านความปลอดภัยทางสุขภาพในข้างต้น การใช้คลอรีนฉีดพ่นเป็นบริเวณกว้าง อาจทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากร ที่ควรเก็บไว้ใช้เพื่อกิจกรรมสำคัญ เช่น การบำบัดน้ำดื่ม และการฆ่าเชื้อในสิ่งแวดล้อมในสถานพยาบาลได้ เป็นต้น
ควรทำอะไรบ้าง เมื่อกลับถึงบ้านหลังจากทำกิจกรรมภายนอก
ทำความสะอาดมือให้สะอาดอย่างทั่วถึง โดยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ซึ่งควรทำก่อนสัมผัสพื้นผิวต่างๆ สิ่งของ สัตว์เลี้ยง หรือผู้คนภายในบ้าน ดูเพิ่มเติมที่นี่
ขณะที่อยู่ข้างนอก ทุกคนควรทำตามมาตรการการเว้นระยะห่าง โดยอยู่อย่างน้อย 1 เมตรจากผู้อื่น รักษาความสะอาดของมือด้วยการล้างมือบ่อยๆ โดยใช้น้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ทำตามสุขนิสัยที่ดี โดย ใช้ข้อพับแขนด้านในหรือกระดาษทิชชู่ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูกและปาก และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น
แนะนำให้ใช้ถุงมือในที่สาธารณะเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 หรือไม่ เช่น เมื่อไปจับจ่ายซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต
ไม่แนะนำการใช้ถุงมือในที่สาธารณะ เพราะไม่ได้เป็นมาตรการที่แนะนำหรือมาตรการที่ได้ผลในการป้องกันโรค การสวมถุงมือในที่สาธารณะไม่สามารถทดแทนการรักษาความสะอาดของมือได้ อีกทั้ง ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด19 ได้มากไปกว่าการล้างมือ เนื่องจาก ถุงมือไม่ได้ป้องกันการปนเปื้อนได้ 100% เพราะจุลชีพก่อโรคอาจเข้าถึงมือผ่านรอยฉีกขาดต่างๆในถุงมือ หรือเกิดการปนเปื้อนในขณะที่ถอดถุงมือ นอกจากนี้ คนยังสามารถแพร่เชื้อโรคจากพื้นผิวหนึ่ง ไปยังอีกพื้นผิวหนึ่งในขณะที่สวมถุงมือได้ หรือ เชื้อโรคก็สามารถแพร่ไปยังปาก จมูก ตา และส่วนอื่นๆ ของใบหน้าได้ในขณะที่สวมถุงมือ
ควรทำความสะอาดของที่ซื้อจากร้าน เช่น ผลไม้ ผัก และของที่บรรจุหีบห่อมาอย่างไร
ณ ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐาน ว่าเชื้อไวรัสที่ก่อโรคระบบทางเดินหายใจสามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางอาหารหรือบรรจุภัณฑ์อาหาร เชื้อไวรัสโคโรนาไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ในอาหาร และต้องอาศัยในเซลล์ของสัตว์หรือมนุษย์เพื่อเพิ่มจำนวน
ไวรัสโควิด 19 โดยทั่วไปแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งผ่านทางฝอยละอองจากระบบทางเดินหายใจ ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 มีความเกี่ยวข้องกับอาหาร
อย่างไรก็ดี ก่อนลงมือเตรียมอาหารหรือรับประทานอาหาร ควรจะล้างมือเสมอด้วยน้ำและสบู่เป็นเวลา 40 ถึง 60 วินาที ควรทำตาม ข้อแนะนำเรื่องอาหารและจัดการอาหาร ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่