Coronavirus disease (COVID-19) questions and answers on vaccine
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) : วัคซีน
28 ตุลาคม 2563 | ตอบข้อสงสัย
ปรับปรุงเมื่อ 13 มิถุนายน 2564
**เอกสารนี้ประกอบไปด้วยคําแนะนําฉบับเร่งด่วน ทั้งนี้หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เอกสารนี้จะมีการปรับปรุงในภายหลัง **
ข้อมูลฉบับภาษาอังกฤษได้รับการปรับปรุงเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2564 – ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์การอนามัยโลกจะปรับปรุงเนื้อหาในการตอบข้อสงสัยนี้ให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเมื่อเรามีข้อมูลมากขึ้น
หากต้องการข้อมูลล่าสุดซึ่งเป็นภาษาอังกฤษสามารถดูได้ ที่นี่
มีวัคซีนสำหรับโรคโควิด 19 หรือไม่
มี ขณะนี้เรามีวัคซีนที่ใช้อยู่หลายตัว โครงการฉีดวัคซีนให้กับประชากรจำนวนมาก (Mass Vaccination) ได้เริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 และสามารถติดตามรายงานปริมาณวัคซีนที่ฉีดแบบรายวันได้ที่นี่ ขณะนี้มีวัคซีนสำหรับใช้งานอย่างน้อย 13 ตัว (เทคโนโลยีการผลิตวัคซีน 4 รูปแบบ)
วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer/BioNtech Comirnaty) ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นวัคซีนสำหรับการใช้งานฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO Emergency Use Listing – EUL) เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 วัคซีนโควิชิลด์ (SII/Covishield) และวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca/AZD1222) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัท AstraZeneca/Oxford และผลิตโดย State Institute of India และ SK Bio ตามลำดับ ได้รับการขึ้นทะเบียน EUL เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ วัคซีนแจนส์เซน (Janssen/Ad26.COV 2.S) ที่พัฒนาโดย บริษัท Johnson & Johnson ได้รับการขึ้นทะเบียน EUL เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna COVID-19 (mRNA 1273) ได้รับการขึ้นทะเบียน EUL เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 และวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm COVID-19) ได้รับการขึ้นทะเบียน EUL เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 วัคซีนซิโนฟาร์มผลิตโดยบริษัท Beijing Bio-Institute of Biological Products Co. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ China National Biotec Group (CNBG) และ วัคซีนซิโนแวค (Sinovac-CoronaVac) ได้รับการขึ้นทะเบียน EUL เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ที่นี่
องค์การอนามัยโลกกำลังพิจารณาวัคซีนตัวอื่น ๆ เพื่อขึ้นทะเบียน EUL ในเดือนมิถุนายน
เมื่อวัคซีนได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ วัคซีนต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับชาติ และผลิตตามมาตรฐานที่เข้มงวด และจึงนำไปแจกจ่าย องค์การอนามัยโลกทำงานร่วมกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อช่วยประสานงานในขั้นตอนสำคัญต่าง ๆ ของกระบวนการนี้ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้มีการเข้าถึงวัคซีนโควิด 19 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอย่างเป็นธรรมสำหรับผู้คนหลายพันล้านคนที่ต้องการวัคซีน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด 19 ได้ที่นี่
วัคซีนโควิด 19 จะพร้อมแจกจ่ายได้เมื่อไหร่
ประเทศต่าง ๆ ได้เริ่มใช้วัคซีนโควิด 19 ตัวแรก ๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ทั้งนี้ก่อนจะส่งมอบวัคซีนโควิด 19 นั้น
- วัคซีนต้องผ่านการทดสอบทางการแพทย์ขนาดใหญ่ (ระยะที่ 3) เพื่อพิสูจน์ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขณะนี้วัคซีนโควิด 19 บางตัวได้เสร็จสิ้นการทดลองระยะที่ 3 แล้ว และวัคซีนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพก็กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
- หลักฐานที่บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนแต่ละตัวจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยคณะกรรมการอิสระซึ่งพิจารณาโดยไร้การแทรกแซง รวมถึงต้องมีการทบทวนเชิงกฎระเบียบและการอนุมัติในประเทศที่ผลิตวัคซีน ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะพิจารณาคัดเลือกวัคซีนเบื้องต้น ในกระบวนการนี้จะมีคณะที่ปรึกษาระดับโลกด้านความปลอดภัยของวัคซีน หรือ GACVS เข้าร่วมด้วย
- นอกจากการทบทวนข้อมูลด้านกฎระเบียบแล้ว ยังต้องทบทวนหลักฐานต่าง ๆ เพื่อพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายว่าควรใช้วัคซีนอย่างไร
- คณะผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่ได้รับเชิญโดยองค์การอนามัยโลกมีชื่อว่า “คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก” (WHO's Strategic Advisory Group of Experts – SAGE) มีหน้าที่วิเคราะห์ผลลัพธ์จากการทดลองทางการแพทย์ รวมถึงหลักฐานเกี่ยวกับโรค กลุ่มอายุที่ได้รับผลกระทบ ปัจจัยเสี่ยงของโรค การนำไปใช้ และข้อมูลอื่น ๆ. จากนั้นคณะที่ปรึกษา SAGE จะแนะนำว่าควรใช้วัคซีนหรือไม่ และอย่างไร
- เจ้าหน้าที่ในแต่ละประเทศจะตัดสินใจว่าจะอนุมัติวัคซีนสำหรับการใช้ในประเทศหรือไม่ และพัฒนานโยบายการฉีดวัคซีนสำหรับประเทศของตนตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
- วัคซีนต้องผลิตในปริมาณมาก ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งยังต้องทำไปพร้อมกับการผลิตวัคซีนสำคัญอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีการใช้งานอยู่แต่เดิมแล้วอีกด้วย
- ในขั้นสุดท้าย วัคซีนที่ได้รับการอนุมัติทั้งหมดจะต้องได้รับการกระจายผ่านระบบโลจิสติกส์ที่ซับซ้อน มีการจัดการสต็อกและการควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด
องค์การอนามัยโลกกำลังร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อเร่งรัดกระบวนการเกี่ยวกับวัคซีนทุกขั้นตอน โดยคงไว้ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
วัคซีนโควิด 19 จะให้การปกป้องระยะยาวได้หรือไม่
เนื่องจากวัคซีนโควิดเพิ่งจะได้รับการพัฒนาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เท่านั้น จึงยังเร็วเกินไปที่จะทราบว่าภูมิคุ้มกันที่ได้รับการกระตุ้นจากวัคซีนจะคงอยู่ได้นานเท่าไหร่ ยังคงต้องศึกษาวิจัยต่อไปเพื่อตอบคำถามนี้ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่ายินดีที่ข้อมูลที่เรามีอยู่ชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ที่หายจากโรคโควิด 19 มีภูมิคุ้มกันซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้อย่างน้อยก็ในระยะหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังต้องศึกษาต่อไปว่าการป้องกันนี้มีประสิทธิภาพเพียงใดและอยู่ได้นานแค่ไหน
วัคซีนโควิด 19 จะสามารถยุติการระบาดใหญ่ครั้งนี้ได้เร็วแค่ไหน
ผลลัพธ์ที่วัคซีนโควิด 19 จะมีต่อการระบาดใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ความรวดเร็วในการอนุมัติ ผลิต และจัดส่งวัคซีน การเกิดขึ้นของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ และจำนวนคนที่ได้รับวัคซีน
แม้ว่าการทดลองจะชี้ให้เห็นว่าวัคซีนโควิด 19 หลายตัวมีประสิทธิภาพสูง แต่วัคซีนโควิด 19 เช่นเดียวกับวัคซีนที่ป้องกันโรคอื่น ๆ ทั้งหมด ไม่อาจป้องกันการติดเชื้อได้ 100% สิ่งที่องค์การอนามัยโลกกำลังทำคือการช่วยให้วัคซีนที่ได้รับอนุมัตินั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด และสร้างผลกระทบเชิงบวกได้มากที่สุดต่อการระบาดใหญ่นี้
วัคซีนโควิด 19 ประเภทใดบ้างที่กำลังได้รับการพัฒนา และวัคซีนเหล่านั้นมีหลักการทำงานอย่างไร
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังพัฒนาวัคซีนหลายตัวที่มีศักยภาพในการต่อต้านโควิด 19 วัคซีนเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อสอนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้รู้จักและต่อต้านไวรัสที่ก่อโรคโควิด 19 โดยที่วัคซีนจะต้องปลอดภัยต่อร่างกายด้วย
วัคซีนประเภทต่าง ๆ ที่มีศักยภาพในการต่อต้านโควิด 19 ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่
- วัคซีนเชื้อตาย – จะใช้ไวรัสที่ถูกทำลายหรือทำให้อ่อนแอแล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดโรค แต่ยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายมนุษย์สร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันได้
- วัคซีนที่ทำจากโปรตีนไวรัส – จะใช้ชิ้นส่วนของโปรตีนหรือเปลือกโปรตีนที่ไม่เป็นอันตรายที่มีลักษณะคล้ายตัวไวรัสโควิด 19 มากระตุ้นให้ร่างกายสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันอย่างปลอดภัย
- วัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ – จะใช้ไวรัสที่ปลอดภัยไม่ก่อโรคมาเป็นแพลตฟอร์มในการผลิตโปรตีนของไวรัสโคโรนาเพื่อกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
- วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม RNA และ DNA – เป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยซึ่งใช้สารพันธุกรรม RNA หรือ DNA ที่ดัดแปลงพันธุกรรมแล้วมาสร้างโปรตีนที่กระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันได้อย่างปลอดภัย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 ทั้งหมดที่กำลังพัฒนา โปรดศึกษาเอกสารเผยแพร่ขององค์การอนามัยโลกซึ่งได้รับการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ
วัคซีนต้านโรคอื่น ๆ จะสามารถปกป้องเราจากโควิด 19 ได้หรือไม่
ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนชนิดอื่นนอกเหนือจากวัคซีนที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับไวรัส SARS-Cov-2 จะสามารถปกป้องเราจากโรคโควิด 19 ได้
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาว่าวัคซีนที่มีอยู่บางตัว เช่น วัคซีน Bacille Calmette-Guérin (BCG) ที่ใช้ป้องกันวัณโรคอาจจะสามารถต่อต้านโควิด 19 ได้ด้วยหรือไม่ องค์การอนามัยโลกจะทำการประเมินการศึกษาเหล่านี้ทันทีที่มีหลักฐาน
ประโยชน์ของการรับวัคซีนคืออะไร
วัคซีนโควิด 19 ช่วยปกป้องร่างกายจากโรคโควิดโดยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อไวรัส SARS-Cov-2 เมื่อร่างกายของเราได้สร้างภูมิคุ้มกันผ่านการรับวัคซีน ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคและผลกระทบอื่น ๆ ที่ตามมาก็จะลดลง และในกรณีที่เราได้รับเชื้อมา ภูมิคุ้มกันนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับไวรัสได้ การรับวัคซีนยังสามารถปกป้องคนรอบข้างได้ด้วย เพราะหากเราได้รับการปกป้องจากการติดเชื้อและการเกิดโรค โอกาสที่เราจะแพร่เชื้อให้คนอื่นก็น้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อปกป้องผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะป่วยหนักจากโควิด 19 เช่น ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
ใครควรรับวัคซีนโควิด 19
วัคซีนโควิด 19 ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีอายุ 18 ขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีภาวะทางสุขภาพใด ๆ รวมถึงโรคภูมิแพ้ตนเอง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หอบหืด โรคปอด โรคตับและไต ตลอดจนการติดเชื้อเรื้อรังที่ทรงตัวและควบคุมได้
ถ้าพื้นที่ของคุณมีวัคซีนจำกัด ให้ปรึกษาบุคลากรด้านสุขภาพ หากคุณ
- มีภูมิคุ้มกันต่ำ
- กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- มีประวัติการแพ้รุนแรง โดยเฉพาะแพ้วัคซีน (หรือส่วนประกอบใด ๆ ของวัคซีน)
- ร่างกายอ่อนแอมาก
เมื่อรับวัคซีนแล้ว สามารถเลิกปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคได้หรือไม่
การฉีดวัคซีนปกป้องคุณจากการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ในช่วง 14 วันแรกหลังจากได้รับวัคซีน ระดับการปกป้องในร่างกายของคุณจะยังไม่สูงมาก แต่จากนั้นภูมิคุ้มกันจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น หากคุณเลือกรับวัคซีนแบบโดสเดียว โดยทั่วไปภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์หลังการรับวัคซีน สำหรับวัคซีนแบบ 2 โดส คุณจำเป็นต้องได้รับครบทั้ง 2 โดสเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันในระดับสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้
แม้ว่าวัคซีนโควิด 19 จะปกป้องคุณจากการเจ็บป่วยร้ายแรงและการเสียชีวิต แต่เราก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามันจะสามารถป้องกันไม่ให้คุณติดเชื้อและแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ด้วยหรือไม่ ข้อมูลที่เราทราบจากประเทศต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสามารถป้องกันการป่วยหนักและการเข้าโรงพยาบาลได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีวัคซีนใดที่ได้ผล 100% และการติดเชื้อหลังรับวัคซีนแม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้
หลักฐานขณะนี้แสดงให้เห็นว่าวัคซีนสามารถป้องกันจากการติดเชื้อและการแพร่เชื้อได้ในระดับหนึ่ง แต่ต่ำกว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนักและการเสียชีวิต เรายังคงต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง และดูว่าวัคซีนสามารถปกป้องเราจากสายพันธุ์เหล่านี้ได้เท่ากับไวรัสแรกเริ่มหรือไม่ ด้วยเหตุผลเหล่านี้และด้วยความจริงที่ว่ายังมีหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันจึงยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนที่เชื้อโควิด 19 ยังระบาดหนัก เพื่อช่วยให้คุณและผู้อื่นปลอดภัย ในขณะที่ทุกคนกำลังพยายามลดการแพร่เชื้อไวรัสและเร่งการฉีดวัคซีน ให้รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร ไอหรือจามใส่ข้อศอก หมั่นล้างมือ และสวมหน้ากาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในพื้นที่ปิด แออัด หรืออากาศไม่ถ่ายเท ปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานท้องถิ่นเสมอตามสถานการณ์และความเสี่ยงในพื้นที่ของคุณ
สามารถรับวัคซีนโดสที่ 2 ที่มาจากวัคซีนคนละตัวกับวัคซีนโดสแรกได้หรือไม่
มีบางประเทศกำลังดำเนินการทดลองทางการแพทย์เพื่อศึกษาว่าคุณสามารถรับวัคซีนโดสแรกจากวัคซีนชนิดหนึ่ง และโดสที่สองจากวัคซีนต่างชนิดกันได้หรือไม่ ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะแนะนำให้ใช้วัคซีนแบบผสมผสาน
วัคซีนโควิด 19 สามารถทำให้ผลตรวจเชื้อเป็นบวกได้หรือไม่ เช่น ผลตรวจ PCR หรือ ผลตรวจแอนติเจน
ไม่ วัคซีนโควิด 19 จะไม่ทำให้ผลการตรวจเชื้อโควิด 19 เป็นบวก ทั้งในการตรวจ PCR หรือการทดสอบแอนติเจนในห้องปฏิบัติการ เพราะว่าการตรวจเชื้อนั้นเป็นการตรวจว่าคุณกำลังป่วยด้วยโรคใด ๆ อยู่หรือไม่ ไม่ใช่การตรวจว่าคุณมีภูมิคุ้มกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัคซีนโควิด 19 จะกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน จึงอาจเป็นไปได้ที่จะทำให้ผลการทดสอบแอนติบอดี้ (การตรวจภูมิคุ้มกัน) เป็นบวก เพราะเป็นการตรวจที่วัดภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 ในบุคคล
หากเคยป่วยด้วยโควิด 19 มาแล้ว ควรรับวัคซีนหรือไม่
แม้ว่าคุณจะเคยรับเชื้อโควิด 19 มาแล้ว คุณก็ควรรับวัคซีนอีกเมื่อมีโอกาส เพราะการปกป้องที่ได้รับจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และเรายังไม่ทราบด้วยว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะคงอยู่ได้นานแค่ไหน
วัคซีนปกป้องเราจากไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้หรือไม่
เรายังคงต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์ต่าง ๆ ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ชี้ให้เห็นว่าวัคซีนส่วนใหญ่กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เพียงพอและมีประสิทธิภาพมากในการต่อต้านสายพันธุ์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้เกิดการป่วยหนัก การเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิต แต่สายพันธุ์สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพของวัคซีนในการต่อต้านอาการป่วยที่ไม่รุนแรงและการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
สาเหตุที่วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้อย่างมาก น่าจะมาจากการที่วัคซีนกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันแบบกว้าง ๆ ซึ่งหมายความว่าต่อให้เชื้อไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงหรือกลายพันธุ์ก็จะไม่ทำให้วัคซีนหมดประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง หากพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพต่ำในการต้านทานสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง เราก็อาจเปลี่ยนองค์ประกอบของวัคซีนเพื่อให้สามารถต้านทานสายพันธุ์เหล่านั้นได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะทำการประเมินได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็ยังคงรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง และองค์การอนามัยโลกจะปรับปรุงคำแนะนำให้เป็นปัจจุบันมื่อทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์และประสิทธิภาพของวัคซีน คณะที่ปรึกษา SAGE ขององค์การอนามัยโลกก็ตรวจสอบหลักฐานเหล่านี้อยู่เสมอ
ในขณะที่เรากำลังเรียนรู้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือเราต้องทำทุกอย่างที่ทำได้ที่จะหยุดการแพร่กระจายของไวรัสเพื่อป้องกันการกลายพันธุ์ที่อาจลดประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ ทั้งหมดนี้หมายความว่าเรายังคงต้องรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร ไอหรือจามใส่ข้อศอก หมั่นล้างมือ สวมหน้ากาก และหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือให้เปิดหน้าต่าง
ผลข้างเคียงจากวัคซีนในผู้ชายและผู้หญิงแตกต่างกันหรือไม่ อายุเป็นปัจจัยด้วยหรือไม่
ผลกระทบของวัคซีนป้องกันโควิด 19 จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลเช่นเดียวกับวัคซีนส่วนใหญ่ ในขณะนี้ เมื่อมีคนได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น เราก็อาจจะเริ่มเห็นรูปแบบของผลข้างเคียงได้ เรายังคงเก็บและเผยแพร่ข้อมูลต่อไป แต่ ณ ตอนนี้ เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าผลข้างเคียงจะเกิดขึ้นกับใครบ้าง
การมีผลข้างเคียงหมายความว่าวัคซีนกำลังทำงานอยู่ใช่หรือไม่ แล้วการไม่มีผลข้างเคียงหมายความว่าอย่างไร
วัคซีนทำหน้าที่โดยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อให้ต่อสู้กับไวรัส กระบวนการนี้บางครั้งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น มีไข้ หนาวสั่น หรือปวดหัว แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีอาการเหล่านี้ การมีอาการและความรุนแรงของอาการไม่ได้ทำนายหรือสะท้อนถึงการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของคุณต่อวัคซีน ภูมิคุ้มกันสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีผลข้างเคียง
เราควรเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารในช่วง 2-3 วันหลังรับวัคซีนหรือไม่
ประสิทธิผลของวัคซีนไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาหารหรือเครื่องดื่มใด ๆ ที่คุณบริโภคทั้งก่อนหรือหลังรับวัคซีน